play8Kit103

Author Archive

เพื่อนคงจะรู้ใช่มั้ยครับ ว่าเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เมื่อแหวกอากาศ (Blade-Vortex Interaction) มันจะมีเสียงดังขนาดไหน ผมก็คนหนึ่งล่ะ ที่แทบจะต้องเอานิ้วขึ้นมาอุดหูด้วยความรำคาญ นี่จนาดเราอยู่ไกลๆยังได้ยินเสียงดังขนานั้น แล้วนักบินกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่คงไม่ต้องพูดถึงเลย แต่มาในวันนี้ความฝันที่เราอยากใหเเสียงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ที่ดังอึกทึกครึกโครมได้หายไปนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาแล้วครับ

ใบพัดแบบใหม่ดูน่ากลัวจัง – -”

ความลับของระบบสุดไฮเทคนี้ (Blue Pulse) คือการออกแบบใบพัดรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานเข้ากับบานพับขนาดเล็ก 3 จุดที่ทำหน้าที่เลื่อนขึ้นและลง 15 – 40 ครั้งต่อวินาที จึงทำให้อากาศที่ถูแหวกด้วยใบพัด (Blade-Vortex Interaction) เกิดการกระจายตัวในรูปแบบใหม่ทำให้ความดังของเสียงลดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ

ลองมาฟังเสียงจริงของระบบใบพัดแบบเดิม กับระบบใบพัด Blue Pulse ว่าความดังของเสียงจะแตกต่างกันขนาดไหน

ที่มา : http://www.i3.in.th



The Eclipse touchmouse เป็นเม้าส์ที่ออกแบบรูปร่างเพื่อจะให้ใช้งานได้ง่าย โดยตัววัสดุเป็นอลูมิเนียมเรียบเกลี้ยงดูทันสมัย รองรับการใช้งานแบบไร้สายด้วยการเชื่อมต่อแบบบลูทูธ ค่า dpi สูงสุด 1600 dpi ใช้แบตเตอรี่แบบ AA จำนวน 1 ก้อน พกพกใช้งานได้ง่าย มีปุ่มเพื่อใช้งานควบคุมได้แบบ 4 ทิศทางซึ่งสามารถสัมผัสขึ้นลง ซ้าย ขวา เพื่อใช้คำสั่งต่างๆ บนเบราเซอร์อินเตอร์เน็ตได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 59.99 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : http://www.igadgety.com


SanDisk บริษัทผู้ผลิตการ์ดหน่วยความจำชั้นนำได้เปิดตัวการ์ด Ultra SDXC SD รุ่นใหม่ที่มีความจุมากถึง 64GB เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่… Ultra SDXC SD ความจุ 64GB จะสามารถให้ความเร็วที่มากพอต่อการบันทึกวิดีโอไฮเดฟ และยังได้รับการพัฒนาทางด้านความเร็วสำหรับการถ่ายภาพนิ่งอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการ์ดหน่วยความจำ SDXC ที่ได้ประกาศการรับรองถึงความเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับกล้องถ่ายรูป และกล้องบันทึกวิดีโอรุ่นต่างๆ มากมาย การ์ดหน่วยความจำ Ultra SDXC สนับสนุนความเร็วในการเขียนข้อมูลได้สูงสุดที่ 15MB/s สำหรับความจุขนาด 64GB หมายถความว่า การ์ดรุ่นนี้สามารถบันทึกวิดีโอไฮเดฟด้วยความเร็ว 9Mbps ได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ที่มา : http://www.igadgety.com

เตรียมโบกมืออำลาเต้นท์ตัวเก่าของคุณไปได้เลย หากได้มาเจอเข้ากับ Orange Solar Tent จากค่าย Kaleidoscope ที่ได้ทุนวิจัยจาก Orange มาพัฒนาให้เต้นท์สุดไฮเทคตัวนี้ให้มีความสามารถที่โดดเด่นโดยการติดตั้งแผงวงจร Solar Cells ไว้ด้านบนเพื่อเก็บพลังงานแสงอาทิตย์และเปลี่ยนแปลงมันมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อที่จะสามารถนำมาใช้เมื่อยามต้องการ

ตอนเช้าก็กางเต้นท์ทิ้งไว้ เพื่อเก็บพลังแสงอาทิตย์

พอตกดึกก็จะมีไฟฟ้าไว้ใช้กัน แหม่…มันดีอย่างนี้นี่เอง

พอเข้ามาดูในเต้น ก็มีที่สำหรับชาจน์แบตเตอรี่ของ Gadget ต่างๆพร้อมจอ LCD แสดงสถานะติดมาให้อีกด้วย

ด้านล่างของ Orange Solar Tent คือแหล่งเก็บสะสมพลังงาน เพื่อส่งถ่ายไปยังจุดต่างๆ

นอกจากจะมีความสามารถที่น่าสนใจแล้ว ในส่วนของดีไซน์ก็ยังดูล้ำสมัยอีกด้วย โดยส่วนตัวผมชอบมากเลยครับ เพราะเมื่อก่อนตอนไปเที่ยวป่ากับเพื่อนๆ ต้องนอนค้างอ้างแรมกันหลายๆวัน บางทีแบตเตอรี่อาจจจะหมดได้ทำให้เกิดปัญหาอยูค้างกันได้ไม่นาน แถมยังโดนห้ามก่อกองไฟอีก มันก็มือน่ะสิครับ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณแนวคิดดีๆจาก Kaleidoscope ที่ได้ทุนจาก Orange มาผลิต Orange Solar Tent ในครั้งนี้ด้วยครับ

ที่มา : mBLAST

มือปืน Hardware

http://www.i3.in.th

นอกจาก Samsung S8500 Wave จะเป็นมือถือซัมซุงที่รวม “ของใหม่” หลายประการเช่น หน้าจอรูปแบบ Super AMOLED, Bluetooth 3.0, ระบบ Bada OS ฯลฯ แล้ว มันยังรองรับ Picsel File Viewer เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย และจะเป็นการเพิ่มความสามารถของรุ่นนี้มากขึ้นไปอีก

Picsel Viewer เป็นที่รู้จักกันดีในด้านโปรแกรมดูเอกสาร Office (และ PDF) ที่ดีมากอีกตัวนึง และเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่จะลง Samsung Wave เป็นที่แรกก่อนใคร มีคุณสมบัติเด่นสุดๆ อย่างเช่น เลื่อนดูเอกสารได้-ซูมไวขึ้นกว่าเดิม, ดู-เลื่อนเอกสารได้หลายหน้าในครั้งเดียว, ดูเอกสารได้คมชัดมากจากหน้า S.AMOLED ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์ในด้านออฟฟิศได้มากขึ้นใน Samsung Wave

ในเร็วๆ นี้ Picsel จะเปิดตัว Mobile Office อีกด้วย คาดว่าภายในเดือนหน้าน่าจะได้เห็นหน้าตา ฟังก์ชั่นการใช้งานตัวเป็นๆ ครับ

ที่มา : SamsungParty

ารทำงานในชีวิตของชาวออฟฟิศอย่างเราๆคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับภาวะการเมื่อยล้าที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานๆอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือนั่งทำงานอื่นๆ ปัญหานี้อาจลุกลามไปไกลจนกลายเป็นความเครียดสะสมจนทำงานออกมาได้ไม่ดี นั่งคิดงานไม่ออก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมด้วยอีกคน นั่งหน้ามึนไปครึ่งวัน กว่าจะคิดงานออก บางทีก็ต้องลงไปหาน้ำหวานๆ พร้อมขนมขบเคี้ยวกินแก้เครียดถึงจะสมองโล่ง ท้ายที่สุดก็ได้น้ำหนักเพิ่มเป็นของแถม

วันนี้ทาง Panasonic เลยออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าที่ต้นคอแถมยังช่วยครายเครียดขณะทำงานได้อีกด้วย โดยเจ้าเครื่องตัวนี้มีชื่อว่า Panasonic Portable Neck Massager ที่ออกแบบมาให้เหน็บไว้ตรงช่วงต้นคอ จากนั้นก็กดปุ่มเริ่มทำงาน ตัวเครื่องก็จะจัดการนวดต้นคอของเราด้วยลูกกลิ้งจากด้านในที่มีแผ่นซิลิโคนนุ่มๆคอยรองรับที่ต้นคอของเราอีกชั้นนึง เพื่อเพิ่มความรู้สึกที่สบายมากยิ่งขึ้น

Panasonic Portable Neck Massager มีขนาด 12.4×10.8×3.8 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเพียง 48 กรัมเท่านั้น จึงทำให้เราสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือขณะเดินไปตามท้องถนน สิ่งนี้จึง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการผ่อนครายความเมื่อยล้าและความตึงเครียดให้หมดไปด้วยวิธีง่ายๆ แต่สำหรับราคายังไม่ไม่มีข้อมูลใดๆ แต่ผมเชื่อว่าน่าจะแพงพอตัวครับ

ที่มา : http://www.i3.in.th

ช่วงนี้อะไรๆก็แรงไปหมด Silicon Power เลยเอามั่งโชว์ 400X Professional Compact Flash Card ที่เร็วที่สุดในโลกกก…
วันนี้ทางบริษัท Silicon Power ได้ประกาศเปิดตัว Compact Flash card รุ่นใหม่ที่เร็วที่สุดในโลก ในชื่อของ 400X Professional Compact Flash Card

Compact Flash card ตัวนี้มันมีความเร็วถึง 400 เท่าจากของเดิมเนื่องจากมันมีเทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบ quad-channel และยังมีความจุสูงสุดถึง 128Gb ทำให้งานถ่ายภาพคุณภาพสูงเป็นไปได้อย่างสะดวกและราบรื่น หมดกังวลกับปัญหาของหน่วยความจำไปได้เลย


นอกจากนั้นมันยังรองรับเทคโนโลยี Error Correction Code (ECC) เพื่อความถูกต้องของข้อมูลที่จะเขียน และยังมีความทนทานใช้งานได้มากกว่า 1,000,000 ชั่วโมง โดยทางผู้ผลิตมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานอีกด้วย

สนนราคายังไม่ทราบแน่ชัดแต่คิดว่า น่าจะทราบราคาในเร็วๆนี้แน่นอน

ที่มา http://www.i3.in.th

A-Data ผู้ผลิต Memory รายใหญ่ของโลกได้ประกาศเปิดตัว SDHC Card Class 10 ที่มีความจุสูงถึง 32Gb ในงาน Cebit 2010

SDHC Class 10 เป็นการพัฒนาจาก SDHC Class 6 ซึ่ง Class 10 จะมีความเร็วในการเขียนข้อมูลถึง 10Mb/s และความเร็วในการอ่านถึง 30Mb/s กันเลยทีเดียว

และด้วยขนาดความจุถึง 32Gb ทำให้สามารถจุภาพยนต์ 1920×1080 ระดับ Full HD ได้ถึง 160 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมสนองความต้องการสำหรับใครหลายๆคนที่มีเครื่องเล่น VDO ที่สามารถอ่าน SDHC ได้อย่างแน่นอน

ที่มา http://www.i3.in.th


ยุคนี้ใครๆ ก็ชอบถ่ายรูป ยิ่งถ้าไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นะ มีแต่ตากล้องเต็มไปหมด แชะๆ ๆ แล้วก็เอาไปโพสต์ลง facebook กันสนุกสนาน แต่ถ้าโพสต์สวยอยู่ดีๆ แล้วแบตหมดเนี่ย อารมณ์อาจเสียได้ แถมยังต้องโยนแบตเก่าทิ้งไป เพิ่มขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้โลกโดยไม่ตั้งใจ วันนี้เลยขอนำเสนอ Sanyo Eneloop ถ่านชาร์จสีสันสดใสจากซันโย มาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องใช้แบตเตอรี่

บริษัทซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด แนะนำผลิตภัณฑ์ถ่านชาร์จ ”เอ็นเนลูป” 8 สีสัน ได้แก่ สีม่วง ชมพู ส้ม เหลือง เขียวอ่อน เขียวแก่ ฟ้า และน้ำเงิน ซึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้

o สามารถใช้ได้ทันทีหลังซื้อโดยไม่ต้องชาร์จก่อน
o เก็บประจุได้ยาวนาน โดยถ่านจะคลายประจุเพียง 15 % ต่อปี (Long Shelf-life)
o เมื่อชาร์จไฟแล้วไม่ได้ใช้งานทิ้งไว้ 6 เดือน ยังสามารถคงประจุไฟฟ้าไว้ได้ 90% และถ้าทิ้งไว้นาน 1 ปี จะยังคงประจุไฟฟ้าได้ 85% ซึ่งถ้าเป็นแบตเตอรี่ทั่วไป จะคายประจุไฟฟ้าหมดภายใน 1ปี
o สามารถชาร์จใหม่ได้ 1000 ครั้ง
o สามารถใช้งานได้ดีแม้ในอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ หรือ ที่หิมะตก
o ความจุ 2000 mAh
o ชาร์จใหม่ได้โดยไม่ต้องรอให้ประจุหมด
o มีแรงดันไฟฟ้าที่สูงกว่าถ่านธรรมดา
o การจ่ายกระแสไฟคงที่ ให้กระแสไฟสม่ำเสมอ เหมาะสมที่จะใช้กับอุปกรณ์ทุกชนิด
o หากใช้กับกล้องดิจิตอลสามารถถ่ายรูปได้มากกว่าถ่านธรรมดาถึง 4 เท่า

นอกจากนี้ยังมีเครื่องวัดพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ “เอ็นเนลูปปี้” สุดน่ารักเป็นรูปน้องหมาสีขาว เมื่อเราต้องการตรวจสอบพลังงานที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ก็เพียงนำแบตเตอรี่ใส่เข้าไปบริเวณส่วนท้องของน้องหมา แล้วกดปุ่มที่อยู่บริเวณหัว เจ้า“เอ็นเนลูปปี้” ก็จะแปลงผลพลังงานที่มีในแบตเตอรี่ออกมาเป็นสัญญาณไฟ 4 สีด้วยกัน คือ สีเขียว สีส้ม สีแดง และไม่มีไฟ

หากใครที่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ก็ลองมองหาแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน จะได้ช่วยกันลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แถมยังประหยัดเงินในระยะยาวอีกด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด
795 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทร. 0-2308-6902 โทรสาร 0-2318-6211

ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ซันโย (ไทยแลนด์) จำกัด
โทร. 0-2308-6900
http://www.sanyo.co.th/eneloop/

(ใช้ดีมากๆครับ ผมก็ใช้อยู่ ใช้ได้นาน อิอิ)


Google PowerMeter คือ เว็บแอปพลิเคชันที่ใช้งานร่วมกับเครื่องมาตรวัดการใช้งานไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน เพื่อเจ้าของบ้านจะสามารถทราบเป็นตัวเลขและกราฟได้ทันทีว่า ณ เวลาปัจจุบันได้ใช้ไฟไปเท่าไหร่ และไฟจากเครื่องไฟฟ้าชนิดใดที่กินไฟมาก ๆ ณ ชั่วเวลาหนึ่งๆ และ ณ ห้องใดๆ ของบ้านที่กำลังบริโภคไฟฟ้ามากเกินจำเป็น

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการนำมาซึ่งการลดการใช้ทรัพยากรอันจำกัดของโลกในทุกๆ ส่วนเพื่อโลกของเราที่จะคงความเขียวสดและน่าอยู่ได้เหมือนเดิม ซึ่งประชากรในอเมริกาเหนือเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ทดลองใช้นวัตกรรมไฮเทคสีเขียวนี้ โดยเลือกซื้อ “นักสืบจับการใช้ไฟ” อย่างเครื่อง TED 5000 ในราคา 7,000 บาท แล้วเชื่อมการทำงานเข้ากับเว็บแอปพลิเคชันอย่าง Google PowerMeter เพื่อตรวจสอบภาวะการใช้ไฟในบ้านของตนได้ทันที

นอกจากนี้ยังสามารถติดตามการใช้ไฟไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนโดยการติดตั้งวิดเจ็ท (โปรแกรมขนาดเล็กๆ) ในหน้าเว็บส่วนบุคคลของกูเกิล (iGoogle) เพื่อดูยอดการใช้ไฟแบบเรียลไทม์ทางโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

เมื่อเราได้รู้ความลับของการใช้ไฟที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในหลายศตวรรษนับตั้งแต่ท่านเคานต์อเลกซานโดรวอลตา (Alessandro Volta) นักฟิสิกส์ผู้ค้นพบเซลล์ไฟฟ้า ซึ่งเขาตั้งชื่อว่าโวลตาอิค เซลล์ (Voltaic Cell) รวมทั้งฮานน์ คริสเตียน เออร์สเตด (Hans Christian Oersted) และอังเดร มารี แอมแปร์ (Andre Marie Ampere) นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศลผู้ที่ทำการทดลองสรุปได้ว่าไฟฟ้ามีอำนาจทำให้เกิดแม่เหล็ก และสามารถทำให้แท่งเหล็กธรรมดากลายเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ จนมาถึงคิวของ “ไมเคิล ฟาราเดย์” ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าแม่เหล็กทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้จริงๆ และหลักการเหนี่ยวนำทางแม่เหล็กไฟฟ้านี้เองที่ฟาราเดย์นำมาประดิษฐ์เป็นเครื่องกำเนิดกระแสไฟฟ้าจากพลังงานกลที่เรียกว่า “ไดนาโม” (Dynamo) ขึ้นในปี ค.ศ. 1822 หรือเมื่อ 187 ปีที่แล้ว

ตัวเลขและกราฟต่างๆ ที่ได้จาก Google PowerMeter ซึ่งปรากฎขึ้นบนหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ ก็หวังว่าจะเป็นสิ่งเตือนใจให้ผู้คนรู้จักที่จะประหยัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมากทีเดียว

ที่มา http://mblog.manager.co.th


หน้า